odakyu

เที่ยวฮาโกเน่ใน 1 วัน

ฮาโกเน่ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์มากในแบบญี่ปุ่น เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มีเวลาเที่ยวแบบจำกัด เราขอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวในฮาโกเน่แบบไปเช้าเย็นกลับได้ใน 1 วัน โดยคุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ เช่น ชมวิวภูเขาไฟฟูจิอันงดงาม ชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะยอดฮิต และผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อน เป็นต้น

หากคุณใช้ตั๋วฮาโกเน่ฟรีพาส คุณสามารถโดยสารรถไฟสายโอดะคิวแบบไป-กลับ และใช้บริการยานพาหนะเกือบทั้งหมดในฮาโกเน่ได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังได้ส่วนลดจากสถานที่ต่างๆด้วย ทำให้คุณสนุกกับการเที่ยวฮาโกเน่มากยิ่งขึ้น สำหรับการเดินทางในฮาโกเน่แบบไปเช้าเย็นกลับใน 1 วัน แนะนำให้ใช้เส้นทางท่องเที่ยวแบบทวนเข็มนาฬิกาเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดของนักท่องเที่ยว


ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตั๋วฮาโกเน่ฟรีพาสได้ที่นี่ เราขอแนะนำตั๋วฮาโกเน่ฟรีพาสแบบดิจิทัล เพราะสะดวกกว่าและสามารถซื้อตั๋วได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยมือถือสมาร์ทโฟน ไม่ต้องพกตั๋วกระดาษเวลาเที่ยวอีกต่อไป

*ในการซื้อตั๋วฮาโกเน่ฟรีพาสแบบดิจิทัล คุณจะต้องมีมือถือสมาร์ทโฟน 1 เครื่องต่อผู้ใช้ตั๋วฟรีพาส 1 ท่าน


 

เริ่มต้นออกเดินทางจากสถานีชินจูกุ

เดินทางอย่างสะดวกสบายโดยรถไฟด่วนพิเศษโรแมนซ์คาร์จากสถานีชินจูกุไปยังฮาโกเน่-ยุโมโตะ
รถไฟเบาะกว้างนั่งสบาย และใช้เวลาเดินทางเพียง 80 นาทีเท่านั้น

สถานีฮาโกเน่-ยุโมโตะ

เมื่อถึงสถานีฮาโกเน่-ยุโมโตะแล้วให้เดินทางต่อไปยังทะเลสาบอาชิก่อน โดยขึ้นรถประจำทางฮาโกเน่โทซังสาย H ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีจะถึงป้ายท่าเรือโมโตะ-ฮาโกเน่

ศาลเจ้าฮาโกเน่

จากป้ายรถบัสสามารถเดินไปยังศาลเจ้าฮาโกเน่ได้ หากแวะเดินเล่นที่ถนนต้นสนซีดาร์ด้วยก็จะไปถึงศาลเจ้าภายในเวลาประมาณ 40 นาที ศาลเจ้าฮาโกเน่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด มีผู้คนจำนวนมากแวะมาสักการะที่นี่ ศาลเจ้าถูกสร้างขึ้นในสมัยนารา (ค.ศ. 757) เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าสามองค์ที่เรียกรวมกันว่า "ฮาโกเน่โอคามิ" ตรงทางเข้าศาลเจ้าจะมีประตูโทริอิซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเลสาบอาชิ ความลึกลับน่าค้นหาของโทริอิแห่งนี้สร้างความเกรงขามต่อผู้พบเห็น ดูเผินๆแล้วเหมือนโทริอิกำลังลอยอยู่บนผืนน้ำ จากนั้นให้เดินต่อไปตามทางเดินและขึ้นบันไดหินไปเรื่อยๆ หลังจากผ่านประตูโทริอิแห่งที่สี่และห้าแล้วก็จะถึงห้องโถงหลักของศาลเจ้า

เรือทัศนาจรชมทะเลสาบฮาโกเน่

จากศาลเจ้าฮาโกเน่เดินกลับไปยังท่าเรือโมโตะ-ฮาโกเน่เพื่อขึ้นเรือไปลงที่ท่าเรือโทเง็นได เพลิดเพลินไปกับการล่องเรือในทะเลสาบอาชิ เรือทัศนาจรนี้ (หรือที่เรียกกันว่าเรือโจรสลัด) มีทั้งหมดสามลำ แต่ละลำตกแต่งภายในอย่างหรูหราและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะนั่งพักผ่อนภายในเรือหรือจะขึ้นไปชมวิวบนดาดฟ้าเรือก็ได้ วิวภูเขาฮาโกเน่จากดาดฟ้าเรือจะช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายจิตใจ

ร้านอาหารโทเง็นไดวิว

มาถึงท่าเรือโทเง็นไดแล้วก็แวะทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารโทเง็นไดวิว ที่นี่มีเมนูอาหารย่างแบบดั้งเดิมที่ปรุงด้วยวิธีย่างถ่านและอาหารสไตล์ตะวันตกที่ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น เมนูยอดนิยมคือ ข้าวไข่เจียวนุ่มๆ และสเต็กแฮมเบิร์กเสิร์ฟพร้อมข้าวและไข่จากโกเทมบะ แนะนำให้ลองดื่มเบียร์สดในแก้วถังโจรสลัดและชมวิวเรือโจรสลัดที่แล่นผ่านไปมาในทะเลสาบ

หุบเขาโอวาคุดานิ

เมื่อทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ก็ไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสายฮาโกเน่เพื่อไปยังหุบเขาโอวาคุดานิ

โอวาคุดานิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของฮาโกเน่ หุบเขาแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อกว่า 3,000 ปีก่อนจากการปะทุของภูเขาไฟฮาโกเน่ ในปัจจุบันยังคงมีควันสีขาวและกลิ่นกำมะถันที่เป็นเอกลักษณ์ลอยขึ้นมาจากทางลาดเขาสีสนิมที่ดูรกร้าง ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของการเที่ยวฮาโกเน่

มาถึงหุบเขาแล้วก็อย่าลืมลองชิม “ไข่ดำแห่งโอวาคุดานิ” อันโด่งดัง เมื่อนำไข่ไปต้มในบ่อน้ำพุร้อนโอวาคุดานิ แร่ธาตุที่อยู่ในน้ำจะเกาะติดกับเปลือกจนกลายเป็นสีดำ มีตำนานเชื่อว่าหากกินไข่ 1 ฟองจะสามารถยืดอายุขัยไปได้ 7 ปี! ลิ้มรสไข่ดำพร้อมชมวิวทิวทัศน์ไปด้วยช่างเป็นประสบการณ์ที่แสนพิเศษ

มุ่งหน้าสู่สถานีโกระ

จากสถานีโอวาคุดานินั่งกระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่ไปยังสถานีโซอุนซัง เพลิดเพลินไปกับวิวท้องฟ้าจากกระเช้าระหว่างการเดินทาง สถานีโซอุนซังเป็นสถานีเปลี่ยนสายระหว่างกระเช้าลอยฟ้าสายฮาโกเน่และรถรางสายฮาโกเน่โทซัง ที่นี่มีบ่อแช่เท้าให้บริการและมีระเบียงที่มองเห็นวิวปล่องภูเขาไฟฮาโกเน่


ต่อไปให้ขึ้นรถรางสายฮาโกเน่โทซังเพื่อไปยังสถานีโกระ

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่

ขึ้นรถไฟสายฮาโกเน่โทซังจากสถานีโกระไปลงที่สถานีโชโกกุโนะโมริ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 นาที จากนั้นเดินจากสถานีไปอีก 2 นาทีก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะ

ภายในพิพิธภัณฑ์มีพื้นที่จัดนิทรรศการกลางแจ้งที่กว้างขวาง มีผลงานชิ้นเอกกว่า 120 ชิ้นจากศิลปินชื่อดังทั้งศิลปะสมัยใหม่และศิลปะร่วมสมัย รวมถึงผลงานของศิลปินอย่างรอแด็ง (Rodin) นอกจากนี้ห้ามพลาดชมหอศิลป์ปิกาโซ ที่นี่มีคอลเลกชั่นผลงานที่มีชื่อเสียงระดับโลกจำนวนถึง 319 ชิ้น

ฮาโกเน่ ยุเรียว

หลังจากชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะเสร็จแล้ว ให้ขึ้นรถไฟสายฮาโกเน่โทซังไปยังสถานีฮาโกเน่-ยุโมโตะ


กิจกรรมสุดท้ายของการเที่ยวฮาโกเน่ คือ การผ่อนคลายและพักผ่อนที่สปาบ่อน้ำพุร้อน “ฮาโกเน่ ยุเรียว (Hakone Yuryo)” จากสถานีฮาโกเน่-ยุโมโตะสามารถขึ้นรถรับ-ส่งฟรีของสปา ใช้เวลาเดินทางแค่ 3 นาทีก็ถึงสปาบ่อน้ำพุร้อน (รถออกทุกๆ 15 นาทีจากสถานี)

ฮาโกเน่ ยุเรียว ให้บริการสปาบ่อน้ำพุร้อน (แบบไปเช้าเย็นกลับ ไม่มีที่พักค้างแรม) ที่นี่มีห้องสปาส่วนตัวทั้งหมด 19 ห้อง ในแต่ละห้องมีบ่อแช่น้ำร้อนกลางแจ้ง การใช้ห้องสปาส่วนตัวต้องทำการจองก่อนล่วงหน้า นอกจากห้องสปาส่วนตัวแล้วยังมีบ่อแช่น้ำร้อนในร่มที่กว้างขวางอีกด้วย หลังจากแช่น้ำร้อนเสร็จแล้วคุณสามารถลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นสไตล์พื้นบ้านที่ปรุงบนเตาไฟอิโรริแบบดั้งเดิมได้

ซื้อของฝากที่ร้านฮาโกเน่โนะอิจิ

ก่อนจะถึงเวลาออกเดินทางกลับด้วยรถไฟด่วนพิเศษโรแมนซ์คาร์ ลองแวะซื้อของฝากที่น่าสนใจ เช่น ขนม
ออนเซ็นมันจู (ขนมไส้ถั่ว) และงานคราฟท์ไม้ที่ร้านฮาโกเน่โนะอิจิ ซึ่งร้านตั้งอยู่ใกล้ประตูตรวจตั๋วของสถานีฮาโกเน่-ยุโมโตะ ร้านจะเปิดทำการจนถึง 20:00 น.

เดินทางกลับสถานีชินจูกุ

หลังจากเที่ยวฮาโกเน่มาทั้งวัน ขากลับชินจูกุแนะนำให้นั่งรถไฟด่วนพิเศษโรแมนซ์คาร์ เพราะเป็นรถไฟมีที่นั่งแบบจองล่วงหน้าและมีเบาะกว้างนั่งสบาย สามารถผ่อนคลายร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการเที่ยวมาทั้งวันได้ รถไฟใช้เวลาเดินทางกลับชินจูกุ 80 นาที

ฮาโกเน่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวเลย สามารถไปเที่ยวเช้าเย็นกลับภายใน 1 วันได้ ถ้าคุณอยากเที่ยวแบบสบายๆและหลีกเลี่ยงความแออัดของนักท่องเที่ยว เราแนะนำให้ลองเที่ยวตามเส้นทางนี้ดู