เที่ยวฮาโกเน่ คามาคุระ และเอโนชิมะ ด้วยตั๋วเหมาสุดคุ้ม ฮาโกเน่ คามาคุระ พาส!
ฮาโกเน่และเอโนชิมะ-คามาคุระ เป็นสองจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในภูมิภาคคันโต ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน พื้นที่เหล่านี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดและยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย แนะนำให้นั่งรถไฟด่วนพิเศษโรแมนซ์คาร์จะช่วยให้เดินทางไปยังฮาโกเน่-ยุโมโตะและคาตาเซะ-เอโนชิมะได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้เวลาเดินทางให้คุ้มค่าที่สุด
ตอนนี้ตั๋วฮาโกเน่ คามาคุระ พาสมีจำหน่ายแบบดิจิทัลแล้ว ทำให้ใช้งานตั๋วได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยตั๋วนี้คุณสามารถนั่งรถไฟสายโอดะคิวได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง นอกจากจะเดินทางเที่ยวชมจุดเด่นของฮาโกเน่และเอโนชิมะ-คามาคุระได้ทั้งหมดแล้ว ยังแวะชมจุดท่องเที่ยวตามสายรถไฟโอดะคิวได้อีกด้วย ในบทความนี้เราขอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับทริป 3 วัน 2 คืนโดยใช้ตั๋วเหมาสุดคุ้ม ฮาโกเน่ คามาคุระ พาส!
【วันที่ 1】ออกเดินทางจากสถานีชินจูกุ
นั่งรถไฟด่วนพิเศษโรแมนซ์คาร์ตรงไปยังฮาโกเน่-ยุโมโตะใช้เวลาประมาณ 80 นาที เพลิดเพลินไปกับการชมวิวเมืองชินจูกุที่พลุกพล่านไปสู่วิวชนบทที่เงียบสงบระหว่างทาง!
มาถึงสถานีฮาโกเน่-ยุโมโตะ
สถานีฮาโกเน่-ยุโมโตะถือเป็นประตูสู่ฮาโกเน่ บริเวณนี้รายล้อมไปด้วยร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารที่ให้รสชาติแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมในสไตล์เมืองออนเซ็น จากที่นี่ให้ขึ้นรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย H) ไปยังทะเลสาบอาชิ
ศาลเจ้าฮาโกเน่
นั่งรถไปประมาณ 30 นาที ให้ลงที่ป้ายรถท่าเรือโมโตะ-ฮาโกเน่แล้วเดินต่อไปอีก 10 นาที เดินไปตามริมทะเลสาบอันสวยงามสักพักก็จะถึงศาลเจ้าฮาโกเน่ ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ปี 1267 และนักรบซามูไรหลายท่านก็เคารพบูชาศาลเจ้าแห่งนี้ ปัจจุบันศาลเจ้าเป็นสถานที่ยอดนิยมที่นักกีฬาและผู้ที่แสวงหาความสำเร็จควรมาสักการะ นอกจากนี้ยังให้โชคด้านความรักและเป็นจุดพลังแห่งจิตวิญญาณอีกด้วย บริเวณใกล้ศาลเจ้ามีจุดถ่ายภาพยอดนิยมคือประตู “โทริอิแห่งสันติภาพ” ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเลสาบ
ทานอาหารกลางวันพร้อมชมวิวที่โรงแรมโฮเทล เดอ ยามะ (Hotel de Yama)
หลังจากเยี่ยมชมศาลเจ้าฮาโกเน่แล้ว ให้เดินเล่นจากริมทะเลสาบไปประมาณ 10 นาทีก็จะถึงโรงแรมโฮเทล เดอ ยามะ (Hotel de Yama) โรงแรมที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่โรงแรมมีสวนดอกไม้ตามฤดูกาลและทัศนียภาพอันน่าทึ่งของทะเลสาบอาชิ และยังมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ในวันที่อากาศแจ่มใสอีกด้วย เมื่อชมสวนของโรงแรมเสร็จแล้วก็ถึงเวลามื้อกลางวันแสนอร่อย ที่โรงแรมมีร้านอาหารฝรั่งเศส “Vert Bois” และร้านอาหารญี่ปุ่น “Tsutsuji no Chaya” ให้เลือกทาน คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวที่สวยงามของทะเลสาบอาชิจากร้านอาหารได้ระหว่างทานอาหาร
นั่งเรือทัศนาจรชมทะเลสาบฮาโกเน่ (เรือโจรสลัด) ไปยังโทเง็นได
ขึ้นรถรับ-ส่งฟรีจากโรงแรมกลับไปที่ท่าเรือโมโตะ-ฮาโกเน่ เมื่อถึงท่าเรือให้ขึ้นเรือทัศนาจรชมทะเลสาบฮาโกเน่ (หรือที่เรียกกันว่าเรือโจรสลัด) โดยเรือจะล่องผ่านทะเลสาบอาชิอันงดงามราวกับกำลังก้าวเข้าสู่โลกแห่งเทพนิยาย สำหรับเด็กๆแล้วการล่องเรือนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมาก ระหว่างล่องเรือจะเห็นวิวศาลเจ้าฮาโกเน่และโรงแรมโฮเทล เดอ ยามะ
นั่งกระเช้าลอยฟ้าสายฮาโกเน่ไปยังหุบเขาโอวาคุดานิ
ลงจากเรือที่ท่าเรือโทเง็นไดแล้วไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสายฮาโกเน่ต่อ ใช้เวลาเดินทาง 30 นาทีเพื่อไปยังโอวาคุดานิ หุบเขาที่มีพื้นที่ภูเขาไฟ บ่อน้ำพุร้อน และปล่องภูเขาไฟ โอวาคุดานิมีระดับความสูงที่ 1,044 เมตร (ประมาณ 3,425 ฟุต) จากหุบเขาสามารถมองเห็นทัศนียภาพทางธรรมชาติของฮาโกเน่แบบพาโนรามาได้ ที่นี่คุณจะเห็นไอควันจากภูเขาไฟได้อย่างใกล้ชิด ระหว่างชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอย่าลืมลองชิมไข่ดำอันโด่งดัง ซึ่งว่ากันว่าหากได้ทาน 1 ฟองจะสามารถยืดอายุขัยไปได้อีก 7 ปี นอกจากนี้คุณยังสามารถเดินชมไอควันจากภูเขาไฟและสังเกตลักษณะของภูเขาไฟอย่างใกล้ชิดได้ ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ที่ “เส้นทางเดินชมธรรมชาติหุบเขาโอวาคุดานิ” (เสียค่าธรรมเนียมเข้าชมและต้องจองก่อนล่วงหน้า)
นั่งรถไฟไต่เขาไปยังสถานีฮาโกเน่-ยุโมโตะ
ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าต่อไปยังสถานีโซอุนซังใช้เวลา 15 นาที จากนั้นให้เปลี่ยนไปขึ้นรถรางสายฮาโกเน่โทซังและมุ่งหน้าไปยังสถานีโกระ รถรางจะพาคุณลงเนินชันที่มีระดับความสูงต่างกัน 209 เมตร (ประมาณ 686 ฟุต) ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็จะถึงสถานีโกระ
เมื่อถึงสถานีโกระให้เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายฮาโกเน่โทซัง รถไฟจะวิ่งซิกแซกขึ้นและลงตามไหล่เขาโดยใช้ระบบ Switchback และมีจะการ Switchback 3 ครั้ง ทำโดยคนขับและคนคุมรถจะสลับตำแหน่งกัน เส้นทางรถไฟไต่เขานี้ขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมโดยในเดือนมิถุนายนจะมีดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่งไปตลอดเส้นทางรถไฟและยังมีการประดับไฟตามรางอย่างสวยงาม รถไฟสายฮาโกเน่โทซังจะวิ่งผ่านบริเวณที่ประดับไฟจึงเป็นเส้นทางที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายภาพยอดฮิตที่ห้ามพลาดตรงบริเวณสะพานเดยามะซึ่งเป็นจุดที่รถไฟสายนี้วิ่งข้ามภูเขา รถไฟจะวิ่งข้ามสะพานใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น!
ผ่อนคลายไปกับอ่างอาบน้ำกลางแจ้งส่วนตัวภายในห้องพัก / โรงแรมฮัตสึฮานะ
ขึ้นรถไฟสายฮาโกเน่โทซังไปยังสถานีฮาโกเน่-ยุโมโตะ จากนั้นขึ้นรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย K) อีก 10 นาทีไปยังโรงแรมฮัตสึฮานะ (Hatsuhana) โรงแรมบรรยากาศเงียบสงบรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งส่วนตัวในห้องพักทุกห้อง และจากบ่ออาบน้ำสาธารณะยังมองเห็นวิวของภูเขายูซากะและแม่น้ำสุคุโมะ โรงแรมบริการอาหารแบบไคเซกิแสนอร่อยตามฤดูกาล
【วันที่ 2】เที่ยวพื้นที่เอโนชิมะ-คามาคุระ
หลังจากทานอาหารเช้าแสนอร่อยที่โรงแรมฮัตสึฮานะแล้ว ให้ขึ้นรถรับ-ส่งไปยังสถานีฮาโกเน่-ยุโมโตะ แวะเลือกของฝากจากฮาโกเน่ที่ร้านฮาโกเน่-โนะ-อิจิ (Hakone-no-ichi) ภายในสถานี จากนั้นเดินทางไปเที่ยวกันต่อ
ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษโรแมนซ์คาร์ (Romancecar) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงไปยังสถานีมาจิดะหรือสถานีซากามิ-โอโนะ จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟโอดะคิวด่วนพิเศษสายโอดะคิวเอโนชิมะ (Odakyu rapid express Odakyu Enoshima line) นั่งไปอีก 20 นาทีก็จะถึงสถานีฟูจิซาวะ
ทานอาหารกลางวันริมทะเลที่ร้าน Ristorante Amalfi
เมื่อถึงสถานีฟูจิซาวะให้เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายเอโนะเด็น (Enoden) เพื่อไปยังร้านอาหารกลางวันยอดนิยมริมทะเลแห่งนี้
รถไฟเอโนะเด็นวิ่งผ่านเมืองและเลียบริมทะเล จากหน้าต่างรถไฟจะเห็นบ้านเรือนเรียงรายอยู่ริมทางรถไฟ
หลังจากผ่านสถานีโคชิโงเอะแล้วจะเห็นวิวทะเลแผ่กว้างออกไปเบื้องหน้าขณะที่รถไฟวิ่งเลียบทะเล และเมื่อผ่านสถานีคามาคุระ-โคโคมาเอะที่ชานชาลาหันหน้าออกไปทางทะเลแล้ว ในที่สุดก็ถึงสถานีชิจิริงะฮามะ
ลงที่สถานีชิจิริงะฮามะแล้วเดินไปตามแนวชายฝั่งเพื่อไปยังร้านอาหารอิตาลียอดนิยมชื่อว่า Ristorante Amalfi ที่นี่คุณจะได้ทานอาหารอิตาลีแท้ๆพร้อมชมวิวชายหาดชิจิริงะฮามะที่สวยงามและเกาะเอโนชิมะ
เยี่ยมชมพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่วัดโคโตคุอิน
เดินกลับไปที่สถานีชิจิริงะฮามะและขึ้นรถไฟไปลงที่สถานีฮาเสะ จากนั้นเดินเล่นไปตามถนนประวัติศาสตร์ของเมืองคามาคุระไปยังวัดโคโตคุอิน วัดซึ่งเป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ชื่อดัง (อามิดะ เนียวไร) พระพุทธรูปองค์นี้เป็นสมบัติของชาติที่มีความสูงถึง 13.35 เมตร สามารถเดินสำรวจภายในพระพุทธรูปได้เพื่อชมเทคนิคขั้นสูงที่ใช้ในการสร้างพระพุทธรูปเมื่อกว่า 750 ปีที่แล้ว
เดินเล่นไปตามถนนโคมาจิโดริ
จากสถานีฮาเสะนั่งรถไฟสายเอโนะเด็นไปลงที่สถานีคามาคุระ เมืองคามาคุระเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เจริญรุ่งเรืองในฐานะศูนย์กลางทางการเมืองตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 11 จนถึงศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันเมืองนี้ยังคงมีบรรยากาศของเมืองหลวงโบราณอยู่ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย
เดินสำรวจถนนโคมาจิโดริที่ทอดยาวขนานไปกับทางเข้าศาลเจ้าสึรุงะโอกะ-ฮาจิมังกุ ระหว่างทางจะพบกับงานฝีมือแบบดั้งเดิม ของที่ระลึก เครื่องประดับแฟชั่น และร้านอาหารมากมาย เหมาะสำหรับการเลือกซื้อของที่ระลึกเป็นอย่างยิ่ง
เยี่ยมชมศาลเจ้าสึรุงะโอกะ-ฮาจิมังกุ
หลังจากเดินเล่นถนนโคมาจิโดริเสร็จแล้ว ให้มุ่งหน้าไปยังศาลเจ้าที่กล่าวกันว่าเป็นหัวใจของเมืองคามาคุระและเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าผู้พิทักษ์ที่ได้รับการเคารพนับถือจากโชกุนคนแรกของรัฐบาลคามาคุระ คือ มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ และแม่ทัพคนอื่นๆของตระกูลมินาโมโตะ เดินชมประวัติศาสตร์ภายในบริเวณศาลเจ้าและยังสามารถชมดอกไม้ตามฤดูกาลได้อีกด้วย เช่น ดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไอริสในช่วงต้นฤดูร้อน ดอกบัวในฤดูร้อน และดอกโบตั๋นในฤดูหนาว
ชมวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากประภาคารชมวิวเอโนชิมะซีแคนเดิล (Enoshima Sea Candle)
หลังจากเยี่ยมชมศาลเจ้าสึรุงะโอกะ-ฮาจิมังกุแล้ว ให้ขึ้นรถไฟเอโนะเด็นกลับไปที่สถานีเอโนชิมะ
เกาะเอโนชิมะมีบรรยากาศริมทะเลที่คึกคักซึ่งแตกต่างไปจากเสน่ห์เมืองโบราณในคามาคุระ คุณสามารถชมวิวอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิและมหาสมุทรจากสะพานเบ็นเต็งบาชิซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมแผ่นดินใหญ่กับเกาะเอโนชิมะ เดินไปตามถนนคนเดินที่พลุกพล่านเรียงรายไปด้วยร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร ไม่นานก็จะถึงประตูโทริอิสีแดงของศาลเจ้าเอโนชิมะ จากตรงนี้สามารถขึ้นบันไดเลื่อนเอโนชิมะเอสคาร์ (Enoshima Escar) เพื่อไปยังด้านบนเกาะ
ด้านบนสุดของเกาะจะมีสวนซามูเอลค็อกกิ้งแห่งเอโนชิมะ (Enoshima Samuel Cocking) รวมไปถึงประภาคารชมวิวเอโนชิมะซีแคนเดิล (Enoshima Sea Candle) ซึ่งเป็นประภาคารที่มีจุดชมวิวอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะ จากด้านบนสามารถมองเห็นวิว 360 องศาอันงดงามของแนวชายฝั่งโชนัน วิวทะเล และวิวเมือง ภายในสวนมีร้านกาแฟ ร้านค้า และแกลเลอรีให้เยี่ยมชม นอกจากนี้ยังมีงานอีเว้นท์ในตอนกลางคืนอีกด้วย เช่น งานโคมไฟ งานประดับเทียน และงานไฟประดับ สัมผัสประสบการณ์งานอีเว้นท์ตามฤดูกาลที่สร้างบรรยากาศอันน่าตื่นตาตื่นใจได้ที่นี่
พักผ่อนอย่างผ่อนคลายที่โรงแรม 8HOTEL SHONAN FUJISAWA
หลังจากเพลิดเพลินกับประภาคารชมวิวเอโนชิมะซีแคนเดิลและคาเฟ่ที่มีวิวอันยอดเยี่ยมภายในสวนซามูเอลค็อกกิ้งแห่งเอโนชิมะแล้ว ให้เดินออกจากเกาะเอโนชิมะและมุ่งหน้าไปยังสถานีคาตาเซะ-เอโนชิมะของรถไฟสายโอดะคิว ระหว่างทางอย่าลืมมองดูทะเลยามค่ำคืนด้วย และจะเห็นประภาคารชมวิวเอโนชิมะซีแคนเดิลส่องแสงสวยงามในทุกทิศทางสามารถมองเห็นได้แม้จะมองจากระยะไกลก็ตาม จากนั้นให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานีฟูจิซาวะซึ่งเป็นสถานีที่สามถัดจากสถานีคาตาเซะ-เอโนชิมะ แล้วเดินต่อไปยังที่พักสำหรับคืนนี้
โรงแรม 8HOTEL SHONAN FUJISAWA เดินทางง่ายและให้บริการความสะดวกสบายเป็นที่น่าพึงพอใจ ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 100 ห้องพร้อมดีไซน์ตกแต่งภายในที่หลากหลาย บางห้องมีห้องซาวน่าให้บริการด้วย นอกจากนี้โรงแรมยังมีสปาเต็มรูปแบบ ห้องซาวน่า สระผ่อนคลาย อ่างน้ำร้อน และอ่างน้ำเย็น เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายและบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง มีเลานจ์ที่ทานอาหารและเครื่องดื่มได้ และแขกที่เข้าพักยังสามารถใช้ห้องครัวได้อีกด้วย ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เลานจ์จะมีการจัดงานดนตรีพร้อมการแสดงของดีเจ
【วันที่ 3】 ชื่นชมศิลปะญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม / พิพิธภัณฑ์ศิลปะภาพพิมพ์เมืองมาจิดะ
เช็คเอาท์จากโรงแรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มการเดินทางวันสุดท้ายของทริป
จากสถานีฟูจิซาวะ ให้ขึ้นรถไฟสายโอดะคิวเอโนชิมะ ไปยังสถานีมาจิดะ
มาจิดะเป็นเมืองใหญ่ที่มีห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้ามากมาย เดินเล่นในเมืองและไปยังสวนเซริกายะ (Serigaya) จากสถานี 15 นาที ภายในสวนนี้มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะด้านงานพิมพ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยมีคอลเลกชันผลงานพิมพ์ที่ยอดเยี่ยมประมาณ 33,000 ชิ้น และงานศิลป์จากญี่ปุ่นและต่างประเทศ ที่นี่มีการจัดแสดงนิทรรศการต่างๆอยู่เรื่อยๆ ซึ่งคุณสามารถสัมผัสกับเสน่ห์ที่หลากหลายของผลงานพิมพ์อันสวยงาม รวมไปถึงศิลปะญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เช่น ภาพอุกิโยเอะ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าของพิพิธภัณฑ์และคาเฟ่ภายในตัวอาคารอีกด้วย
Fernand Léger,Circus, 1950, lithograph, Machida City Museum of Graphic Arts
วัดแมวกวักนำโชค / วัดโกโตคุจิ
หลังจากเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้ว ให้ขึ้นรถไฟสายโอดะคิวใช้เวลาประมาณ 30 นาทีมาลงที่สถานีโกโตคุจิ เพื่อไปยังวัดโกโตคุจิหรือที่รู้จักกันในชื่อวัดแมวกวักนำโชค บริเวณศาลเจ้าภายในวัดจะมีแมวกวักนำโชคถูกวางเรียงรายกันเป็นแถว
เรื่องราวของวัดนี้ค่อนข้างน่าสนใจ โดยมีอยู่ว่าวันหนึ่งขณะที่ขุนนางกำลังเดินทางกลับจากการล่ากวาง ก็มีแมวตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นหน้าประตูวัดและเชิญเขาเข้าไปในวัด เมื่อขุนนางเข้าไปในวัดทันใดนั้นก็มีฟ้าร้องและฝนเริ่มตก ขุนนางรู้สึกดีใจที่ได้รับการปกป้องจากฝนตกและไม่โดนฟ้าผ่า จึงใช้แมวกวักเป็นโอกาสในการค้ำจุนวัดแห่งนี้ ตั้งแต่นั้นมาแมวก็กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภและความโชคดี คุณสามารถซื้อเนโคะจิ (รูปปั้นแมวกวัก) ที่เป็นเครื่องรางนำโชคได้ที่สำนักงานวัด นอกจากนี้ยังมีสินค้าเกี่ยวกับแมวจำหน่ายอีกด้วย
แวะเที่ยวย่านสุดฮิป / ชิโมะคิตาซาวะ
สถานีชิโมะคิตาซาวะอยู่ห่างจากสถานีโกโตคุจิของรถไฟสายโอดะคิว 3 สถานี ชิโมะคิตาซาวะเป็นเมืองที่ทันสมัยและเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นหนุ่มสาวทั้งคนญี่ปุ่นและคนต่างประเทศ ที่นี่เป็นศูนย์กลางของร้านเสื้อผ้าวินเทจ มีร้านขายแกงกะหรี่และร้านราเม็งเยอะอีกด้วย ย่านนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศใจกลางเมืองที่มีร้านอาหารหลากหลายและร้านค้าเล็กๆมากมาย นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่นิยมสำหรับศูนย์การค้าแบบแนวราบที่ล้ำสมัยซึ่งสร้างขึ้นจากการพัฒนาใหม่รอบๆสถานี เพลิดเพลินและสัมผัสกับบรรยากาศใหม่ๆที่แตกต่างไปจากเมืองใหญ่อื่นๆในใจกลางโตเกียวอย่างชินจูกุ ชิบูย่า และกินซ่า
เดินทางกลับชินจูกุ
หลังจากเดินเล่นรอบๆชิโมะคิตาซาวะแล้ว ให้ขึ้นรถไฟสายโอดะคิวกลับไปยังสถานีชินจูกุซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของการเดินทางครั้งนี้
ตั๋วเหมาสุดคุ้ม ฮาโกเน่ คามาคุระ พาส ทำให้คุณสามารถขึ้นและลงยานพาหนะได้มากเท่าที่ต้องการ ใช้เดินทางท่องเที่ยวไปยังฮาโกเน่ เอโนชิมะ และคามาคุระได้อย่างอิสระ รวมถึงย่านสุดฮิต เช่น ชิโมะคิตาซาวะ ด้วยตั๋วเหมาสุดคุ้มใบนี้จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในโตเกียวและคานากาวะของคุณง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น